Life is too shot.
25/9/56
31/8/56
เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ตอนที่ 2 Let's Go to Japan.
เริ่มเลย เดินทางออกจากสุวรรณภูมิตอน 7.10 น. ขาไปไม่โหลดกระเป๋า ประหยัดไปหน่อย ไปถึงกัวลาลัมเปอร์ตอน 10.15 น. เวลามาเลย เร็วกว่าพี่ไทย 1 ชม.นะ ลงเครื่องมาก็ตรงดิ่งไปเคาเตอร์แลกตังก์เป็น ริงกิตซะก่อน แล้วไปหาข้าวกินกัน เดินจนสุดทางเจอ food court เล็กๆ รสชาติก็เตรียมใจไปเนาะ กินเสร็จก็ต่อด้วย กาแฟและเค้ก กินฆ่าเวลา และสะสมชั้นไขมันกันก่อนเจออากาศหนาว
นั่งรอ transit อยู่เกือบ 4 ชม. ถึงจะได้บินไปยังปลายทางของเรา
เหยียบประเทศญี่ปุ่นครั้งแรกเวลา 22.30 น.เวลาพี่ยุ่นเร็วกว่าไทย 2 ชม. นะจ๊ะปรับนาฬิกาด้วย ผ่านตม. เรียบร้อย สิ่งที่ต้องเข้าถึงให้ได้ ไม่งั้นจะเหมือนมาไม่ถึงญี่ปุ่น คือ ห้องน้ำ 5555 ได้ยินมานักต่อนักว่าเป็นประเทศที่มีชักโครกไฮเทคที่สุดในโลก จัดไปสักดอก ใช้สิ่งที่ เราหมัก มาอย่างได้ที่จาก ไทยและมาเลย์ จัดไปอย่าได้เสีย
รู้สึก เลิฟตรงที่ ประหยัดไฟมากๆ ไฟห้องน้ำยังติดตั้งเซนเซอร์เลย ใครไม่ชินก็อาจจะรู้สึกหลอนๆ ด้วย เดินผ่านแล้วไฟติดเองหนะ ลองนั่งทำสมาธิเล่น นั่งนิ่งๆ ในห้องน้ำนะ ไฟดับด้วยแหละ
มาดูห้องน้ำสนามบินกัน สะอาดมากอ่ะขอบอก
ชักโครกเสียบปลั๊ก สงสัยไหม๊ว่าถ้าเกิดไฟรั่ว ตอนฉีดน้ำมันอาจจะ ช๊อตตูดเราได้ เฮ้ย!! บ้านพี่ยุ่นเค้าปลอดภัยอยู่แล้วไม่ต้องห่วง |
เวลาคุณแม่พาคุณลูกมาก็ไม่ต้องกังวล เรามีเก้าอี้สำหรับเด็กเล็ก ทำให้คุณแม่ปลดทุกข์ในท่วงท่าปกติได้หายห่วง |
ที่สนามบินจะมีวิธีใช้อย่างละเอียด ควรศึกษาวิธีใช้งานจากที่นี้ก่อน เพราะไปที่อื่น อาจงงได้
เสร็จสิ้นกระบวนการกดปุ่มนี้นะ
แอบไปดูของผู้ชายมาด้วย มีเซนเซอร์ ไม่ต้องกด เก็บน้อง เดินออก ราดน้ำให้เองอัตโนมัติ |
คือรายละเอียดเยอะมากอ่ะ ขนาดประตูยังอธิบายวิธีการเปิดประตูให้ด้วย โคะ |
ที่ใส่ทิชชู สะอาดมาก |
จริงอยากได้ราวจับอันนี้กลับไทยมาก อันนี้สำหรับผู้สูงวัย หรือมีปัญหาหัวเข่านะ |
นี่มันรีวิวไปเที่ยว หรือรีวิวห้องน้ำว่ะ 5555 ชอบอ่ะ สะอาด นั่งแล้วรู้สึกตูดตัวเองสกปรกไปเลย
ต่อมา มาดูบรรยาศ ห้องพักคืนแรกของเรา ห้องพักอันแสนหรูหรา ไฮโซ คนเข้าพักเยอะอยู่นะ 555
วิวจากที่นอนเลยนะ |
ชั้น สาม เงียบสงบ เหมาะแก่การนอนเป็นอย่างยิ่ง หลับสบายไร้กังวล |
เพดาน สนามบินฮาเนดะ ตรงที่เรานอน คนไม่พลุกพล่าน ไฟสลัว เหมาะต่อการนอนเป็นอย่างยิ่ง |
เตรียมตัวให้พร้อมก่อนนอน เก็บของมีค่าไว้ที่ตัว
เพื่อนร่วมทริป จัดเต็มมาอุปกรณ์การนอน |
จบคืนแรกของญี่ปุ่น
(จริงๆแล้วเค้านอนไม่หลับหน่ะ ผิดที่ แอบไม่สบายตัว นอนห้าทุ่ม ตื่นทุกๆ ชั่วโมง ตื่นเต็มตัวตอนตี 5)
ปล. สนามบินอุ่นสบาย จนทำให้เราไม่คิดว่าข้างนอกหนาวววววว มากกกกกกกกกกก
จัดทริปไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง 1 ตอน เตรียมตัวก่อนเดินทาง
ก่อนอื่นใดขอขอบพระคุณ สายการบิน Airasia เป็นอย่างสูง ที่จัดโปรฯ ให้การตัดสินใจเสียตังก์แบบแทบจะไม่ต้องคิดให้ดีก่อน จนทำให้เราได้ไปเยือนญี่ปุ่นในครั้งนี้ เราเลยได้ตั๋ว ไป-กลับญี่ปุ่น (โตเกียว) 8,458 (ราคายังไม่ได้จองโหลดกระเป๋านะ) จองไว้ข้ามปี โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงการขอวีซ่าว่าจะผ่านหรือไม่ 555555 เครียดตัวดำไปเลยตอนหาข้อมูลขอวีซ่า (จริงๆ ก็ดำอยู่แล้วนะ)
ด้วยความอยากไปญี่ปุ่นและก็เกริ่นกับเพื่อนชะนีนางหนึ่งไว้ด้วยกันว่าอยากไปญี่ปุ่นสักครั้งก่อนตาย ฮั่น ดูโหด.. และด้วยการทีเรานำร่อง Back pack ด้วย สิงค์โปร และเวียดนามมาแล้ว ความกล้าๆ กลัวๆ ก็หายไปหมดสิ้น เจอทริปเวียดนามสุดหิน พบวิบากกรรมมากมาย อย่าให้เล่า เพราะมันจะเคล้าด้วยน้ำตา
ลำดับการจัุดทริปของเรา (เน้นนะของเรา)
1. จองตั๋วกำหนดวันไป (ดันได้ไปช่วง Golden week วันที่ 3-7 ของญี่ปุ่นพอดี ) ได้ตั๋ววันที่ 30 เม.ย-7พ.ค. ปี 56 ซึ่งทั้งสองนางไม่รู้ว่ามันเป็นวันหยุดของพี่ยุ่น อ๊ากกกก ตอนแรกแอบเครียดว่าคนจะเยอะแต่แล้วไม่ได้เป็นเยี่ยงนั้นกลับเที่ยวสนุกกว่าเคยเพราะ ทุกอย่าง ลด ลด ลดดดดดดด สบายแฮ...ช๊อปปิ้งกันแบบยิ้มกรุ่มกริ่มกันตลอดทริป
2. เตรียมขอวีซ่า เป็นช่วงที่ลุ้นที่สุดอ่ะ เพราะอ่านรีวิวและคำขู่ของพ้องเพื่อนบอกว่า ขอวีซ่าญี่ปุ่นยากม๊าก ถึงม๊ากที่สุด ตอนวีซ่าส่งมาถึงบ้านก่อนฉีกซอง ลุ้นมาก เหมือนยืนฉีกซองบนขอบหน้าผาแกรนด์แคนยอน มือเท้าสั่น พอพบหน้าวีซ่าในพาสปอร์ต ยิ้มแก้มแตกไปสองวัน ขนาดนั้นเลยทีเดียว
ขอยินดีด้วยน่ะฮ้า.. ตั้งแต่กลางปี 56 ไม่ต้องขอวีซ่าไปแล้วนะดีใจแทนคนที่ได้ไปเที่ยวช่วงนี้ น้ำตาตกในเลย
3. วางแผนว่าอยากไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ด้วยเงินเก็บอันน้อยนิด และความสามารถในการหาเงินอยู่ในขั้นต่ำ ก็เลยคิดไปเองว่าไปครั้งนี้แล้วไม่รู้จะได้ไปอีกเมื่อไร เลยวางแผนว่าให้ไปทุกทีที่อยากไป ทำให้เราพลาดเรื่องการเดินทางในญี่ปุ่น เสียเวลาและเสียตังก์ค่ารถไฟไปแพงอยู่ แต่นับว่าเป็นประสบการณ์ จึงไม่ได้แคร์มากนัก
ขั้นตอนคือ
1. อ่านรีวิวที่มีทั้งปวงบนเน็ต ขอบกราบขอบพระคุณทุกท่านที่สละเวลาทำการรีวิวไว้เป็นอย่างสูง
2. พล๊อตตำแหน่งที่อยากไป ไว้บน google maps
3. ประมวลการเดินทางและ ประมาณค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ดูทั้งรถไฟ รถบัส เครื่องบิน อาศัยพี่กู (google maps อีกแหละเพราะเค้ามีคำนวนค่ารถให้เลยด้วย พี่กูชนะเลิศ)
อีกเว็บที่ใช้เช็ครถไฟในญี่ปุ่น http://www.hyperdia.com/en/ ละเอียดยิบ มี app ให้ดาวน์โหลดกันด้วยนะ ติดมือถือไว้เป็นดี เอาไว้เช็คเที่ยวรถได้ ทุกอย่างตรงเพะ รถไฟบอกว่ามากี่โมง กี่นาที เทียบชานชลากันเวลานั้นเลย ไม่มีคำว่า late แน่นอน นายแน่มาก
4. จัดการจองตั๋ว JR pass (หรือใครใช้ pass อื่นๆ ก็ไปซื้อได้ที่สถานีนั้นๆได้ )เพราะเราคำนวนแล้วใช้ไอ้นี่คุ้มสุดเพราะเราเดินทางข้ามจังหวัดด้วย จาก โตเกียว ไป เกียวโต ไปโอซาก้า แล้วกลับมาที่ โตเกียวอีก ซึ่งคุณน้องแนะนำว่าอย่าทำตามนะฮ้า เพราะเหนื่อยโฮก ไปญี่ปุ่นแค่ 6 วันเที่ยวได้ไม่เยอะหรอก ล้อจัดหนัก เหนื่อยโฮก วันหนึึ่งเราเที่ยวได้แค่ 2-3 ที่ถือว่าเยอะแล้วเพราะต้องใช้เวลาในการเดินทาง หาสถานี คือใช้เวลาในการเดิน เดิน และก็เดิน ในสถานี JR เยอะอยู่
ตัว JR pass จองผ่านเอเย่นในไทย เราซื้อของ http://www.japanonsales.com/ ณ ตอนนั้นเค้าให้ราคาดีสุด อยากให้ลอง รีเสิจ ก่อนนะเพราะราคาอาจจะเปลี่ยนก็ได้ ตอนที่ไปถือว่าค่าเงินงามมาก 0.297 หน้าตาตอนแลกเงินมีความสุขสุดๆ
มันถูกง่ะ
5. จองโรงแรม โรงแรมก็ควรจะให้ใกล้กับที่เที่ยวของเรานะ ถ้าไม่มีหรือแพงก็หาที่มันใกล้กับสถานีรถไฟเอา ใช้พี่กูอีกให้การดูและคำนวนระยะทางจากสถานีรถไฟไปยังโรงแรม และแอบไปดูแบบ street view ดูความเปลี่ยวของเส้นทาง เป็นคนสวยไงก็ต้องระวังตัวสักหน่อย 5555 ที่ไปมาก็เน้นแบบ hostel ถูกไว้ก่อนพ่อสอนไว้
6. แลกเงิน ไว้ให้พร้อม เราก็ฝากให้พี่สาวคนสวยแลกให้ที่ super rich เรทดีสุดในประเทศแล้ว
7. ซื้อซิมอินเตอร์เน็ต ตัวช่วยการเดินทางอันแสนวิเศษ เราได้ลองใช้่ 3G พี่ยุ่นถือว่าเป็นบุญมาก
(แวะไปอ่าน รีวิวของอินเตอร์เน็ตในญี่ปุ่น)
8.เตรียมตัวก่อนวันเดินทาง สักอาทิตย์ เช็คอุณหภูมิ สภาพฟ้าฝน แล้วจัดเสื้อผ้า รองเท้า ที่นุ้นไม่เห็นใส่รองเท้าแตะเดินกันนะ แอบฮาตรงที่เราตั้งใจเลยว่ากะไปซื้อเอาที่นู้นจะได้ไม่ต้องหิ้วของเยอะ ไงหล่ะเดินตีนเขียวไปหนึ่งวันเต็ม หนาวมากอ่ะ 8-16 องศา และเรื่องยังมีอีก ลืมเสื้อหนาวจ้าาาาาาาา กะว่าจะไว้นอกกระเป๋าไม่ต้องโหลดเพราะไปถึงจะได้ใส่เลย ดันลืมหยิบ ควายเรียกพี่ เตรียมพร้อมฝุดๆ จริงกรู แต่ไม่เป็นไรเราก็ใส่เสื้อผ้าที่เราไปหลายชั้น ตัวบวมเป็นอึ้ง กันเลย โอ๊บ อ๊บ
Check list
- ตั๋วเครื่องบิน เช็คอินไป-กลับ พร้อม
- พาสปอร์ต
- JR pass คือจองผ่านเอเย่นก็จะถามว่าไปจังหวัดไหนบ้างเค้าจะเตรียมเอกสารการท่องเที่ยว และแผนที่มาให้ด้วยอ่ะ ดีจุงเบย
- ใบจอง โรงแรม
- รายละเอียดที่วางแผนการเดินทาง พอเอาเข้าจริงใช้ มือถือซะส่วนใหญ่ แล้วก็ไปพึงแผนที่ที่นู้นแผนทีดีมาก เราสามารถเดินทางได้แบบสมูทมาก แม้จะมีหลงทิศบ้างนิดหน่อย
- เสื้อกันหนาว ถุงเท้า ถุงมือ ก็ดูสภาพอากาศช่วงที่เดินทางก่อน
- รองเท้าผ้าใบที่ใส่สบาย ไม่ต้องพกแตะก็ได้นะ
- อันนี้อยากให้ติดไปด้วย ผ้ายืดสวมหัวเข่า เฮ้ยเอาไปข้างเดียวเพราะเคยมีปัญหาที่เข่าข้างนั้นกลัวเดินเยอะแล้วเจ็บ ปรากฏว่ามันชนะเลิศ ถ้าได้ใส่ทั้งสองข้าง จะช่วยได้เยอะมากกกกก
ผ้ายืดพยุงหัวเข่า
Knee support
แบบนี้นะ ที่เอาไป ดีจริง ต้องบอกต่อ เหมือนจะขายของโนะ
ใครมีปัญหาเรื่องหลังก็เอา พวก support หลังไปด้วยเพราะเราจะต้องแบกของ หนักอยู่
9. หมอนรองคอ ไอ้ทีเป็นรูปตัวยู หรือเกือกม้าหน่ะ ใครนอนหลับยาก พกไปด้วยนั่งเครื่องหลับสบาย น้ำลาย ยายไหลย้อย ไม่ยู้ตัวกันเยย
10. ถุงนอนนนนนน เพราะที่พักของเราคืนแรกในญี่ปุ่นคือ สนามบิืนฮาเนดะ และถุงนอนก็ช่วยให้หลับสบายบนเครื่องด้วย ดีจัง
11. ยูกยา ต่างๆ ยาประจำตัว พารา พลาสเตอร์ ยาดม ยาลม ยาหม่อง ก็ว่ากันไปตามฤทัยท่าน
12. สิ่งสุดท้ายห้ามลืมเด็ดขาด คือ ตังก์ที่แลกไว้ 55555 ใครมีบัตรเครดิต เดบิตที่เป็นวีซ่า ก็พกติดตัวกันเหนียวไว้ก่อนเผื่อมีเหตุการณ์ เหนือธรรมชาติ เช่น โดนผีเครื่องสำอางค์ ผีเสื้อผ้า หรือ ผีรองเท้าเข้าสิง
ลืมอะไรอีกไหม๊ คงไม่แล้วมั้ง ... เอาไว้มาเล่าว่าไปเที่ยวไหนมาบ้างนะ
ป้ายกำกับ:
จัดทริปญี่ปุ่น,
เตรียมตัวก่อนไปญี่ปุ่น,
เที่ยวญี่ปุ่น ด้วยตนเอง
ตำแหน่ง:
จังหวัด สุราษฎร์ธานี ประเทศไทย
22/8/56
ซีรีย์เกาหลี สนุก ฮาม๊วกกก แนะนำเล๊ยย
พี่น้องครับ ตั้งแต่ดูซีรีย์ ติดขอบจอมาจะครบ สามปี
น้องออมขอคอนเฟิร์มเลยว่า เรื่องนี้เด็ดสุด ฮาสุด ในรอบสองสามปีที่ผ่านมา
ซีรีย์เรื่องนี้เลยครับพี่น้องครับ
The Master’s Sun
หรือชื่อเกาหลีว่า
ตอนดู Teaser ไม่คิดว่าจะฮาได้ขนาดนี้ ออกแนวหนังผีดูน่ากลัว ที่ไหนได้ คุณหลอกดาวววววว สนุกมาก นางเอกเจอพผีจนเพี้ยน พระเอกหิวเงินจนเพี้ยนอีกคน 5555 ว่ากันไป เราว่าคนเขียนบทแม่งเพี้ยนสุด 5555555555 เขียนมาได้ไง ขอคาระวะหัวโขกพื้นสามเที่ยวตามด้วยตีลังกาสามตะหลบอะให้ดู Teaser กันก่อน
ใครอยากดูซีรีย์เกาหลี แนว Horror, Fantasy, Romance, Comedy เรื่องนี้แม่งครบ สนุกทุกตอน เก็บรายละเอียดทุกเม็ด การันตีคุณภาพจากนักเขียนบทของสองพี่น้องฮงจองอึน-ฮงมิรัน The Greatest Love , My Girlfriend is a Gumiho, Big และ You’re Beautiful เฮ้ยยยย!!! ทุกเรื่องที่กล่าวมา สนุกมากกกกก
การพบเจอของคู่เพี้ยน การที่คนสองคนได้่มาเจอกัน
และแต่ละคนก็มีสิ่งที่ต่างคนต่างต้องการจากกันและกัน
เกิดเป็นข้อแลกเปลี่ยน จนกลายมาเป็นความผูกผัน
ซึ่งนำพาเรื่องดีดี มาสู่ทั้งสองคน
มารู้จักตัวละครเอกในเรื่องกัน
(จริงๆแ้ล้ว คาเร็คเตอร์ทุกตัวละครดีทุกตัวเลย มีให้อมยิ้ม ฮา เกร็งแก้มกันตลอดเรื่อง)
ก่อนใครเลย พระเอก
โซจีซบ พระเอก the master's sun. |
So Ji Sub (โซจีซบ) รับบทเป็น Joo Joong Won (ชูจุงวอน)
นางเอกจ้า
กงโฮวจิน นางเอก The master's sun. |
Gong Hyo Jin กงโฮวจิน รับบทเป็น Tae Gong Sil แทกงชิล
โครตชอบฉากนี้ การ์ตูนมาก ฮาตัวโยนเลย อยู่ใน ตอนที่ 5 เป็นฉาก พระเอกเอาตัวมาล่อ 55555 นางเอกหน้าหื่นเลย
ความคิดเรานางก็สวยนะสวยในแบบของนาง ใครจะบอกไม่สวยก็ช่าง แต่การัีนตีคุณภาำพการแสดงของนางว่า สุดยอดปลายกิ่งผุกกุ๊กไก่กันเลยทีเดียว แสดงได้ลื่นไหล ชอบมาตั้งแต่เรื่อง Thank you และก็ The greatest love (หนังฮา อีกเหมือนกัน) ชอบมากกกกก
พระรอง พ่อไฝเสน่ห์
Seo In Guk รับบทเป็น Kang Woo คังอู |
นางรองเรื่องนี่ยังฮาเลย ร้ายแบบโป๊กฮา น่ารักดี
Kim Yoo Ri (คิมโยรี) รับบทเป็น Tae Yi Ryung (แทอิรยอง) |
มาดูเพลงประกอบละครกันบ้าง (The Master's Sun OST)
เราเลือกมาที่เป็นซับไทยให้เลยนะ ขอขอบพระคุณเจ้าของคลิปใจดีทุกคน ไว้ ณ ที่นี้
2. เพลง Day and Night ร้องโดยGummy
ขอขอบพระคุณ โครตฮิต อย่างเป็นทางการ
โครตฮิต โครตไว โครตสนุก โครตคุณภาพ รักโครตๆๆ
รักทีมซับทุกคนเลย
ป้ายกำกับ:
ซีรีย์ the master's sun,
ตลก,
สนุก,
หนังเกาหลี,
ฮา,
The master's sun
1/8/56
ข้อคิดดีดี จากซีรีย์ Heartless city และ I hear your voice
ข้อคิดดีดีจากซีรีย์เกาหลีเรื่อง heartless city |
จบไปพร้อมๆ กันกับ ซีรีย์เรื่อง I hear your voice. สองเรื่องนี้ให้ข้อคิดที่เหมือนกันก็คือ อย่าไปโทษผู้อื่น อย่าไปโทษโชคชะตา อย่าไปโทษโลก เหมือนอย่างที่คนรักเก่าของพระเอกเรื่อง heartless city ได้บอกกับพระเอกหรือ จองชียอน ไว้ว่า " โลกก็เหมือนกระจก ถ้าคุณด่าหรือสาปแช่งมัน โลกก็จะด่าและสาปแช่งคุณกลับ ถ้าคุณยิ้มให้โลก โลกก็จะยิ้มให้คุณ"
และในเรื่อง I hear your voice. แม่ของนางเอกก็ได้สอนนางเอก "การมีชีวิตแบบ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ถ้าเธอใช้ชีวิตแบบนั้น ทุกคนในโลกก็จะขวางหูขวางตาไปหมด คนที่ทำแย่ๆ กับเธอ อย่าไปเกลียดคนพวกนั้นเลย แค่เสียใจและสงสารเขาไปก็พอ " และนางเอกก็ส่งต่อความคิดด้านบวกนี้ให้พระเอก บวกกับพระเอกที่มีสติ คิดถึงคำพูดของคนที่รักเค้าตลอดเวลา ก็เลยทำให้เรื่องราวจบลงด้วยดี
ข้อคิดดีดีจากซีรีย์เกาหลีเรื่อง I hear your voice |
พักหลังๆ มานี้ซีรีย์เกาหลี จะไม่เน้นหน้าตานักแสดง แต่จะไปเน้นคุณภาพหนัง คุณภาพนักแสดง และคุณภาพบทแทน เห็นได้ชัดเจน ถ้าไปอ่านคอมเม้นท์แรกๆ ก็จะเจอกับ "ทำไมนางเอก /พระเอก หน้าตาไม่ดีเลย ไม่หล่อ ไม่สวย " อะไรก็ว่ากันไป
ขอปรบมือดังๆ ให้กับผู้เขียนบทซีรีย์เหล่านี้ นับถือใจหล่อๆ สวยๆ ของคนเขียนมากๆ เขียนได้เห็นถึงแก่นของมนุษย์ คือไม่ได้โลกสวยนะ แต่หลายเรื่องในปีนี้ที่ได้ดู จะเห็นได้ว่า จะออกแนวสื่อให้เห็นว่า สิ่งที่เห็นนั้นอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น การกระทำของแต่ละคนล้วนย่อมมีที่มา ไม่ได้มีใครเกิดมาแล้วเลวเลย และขอนับถือช่องที่ออกฉายด้วย คือ กล้า ที่จะไม่เน้น หล่อ สวย ขายของ (Tie in) หนังดี ยังไงก็มีคนดู
**ชอบนางเอกเรื่อง I hear your voice มาก เค้าว่าหน้านางคล้ายสไปรท์ ฮอร์โมนนะ
คาเรคเตอร์ในเรื่อง น่ารักดี
คาเรคเตอร์ในเรื่อง น่ารักดี
ยิ่งใครเป็นหญิงมีวัยและไร้คู่ จะชอบเรื่องนี้มาก ก็เด็กมันน่ารักอ่ะ 55555**
ใครดูแล้วก็แวะเค้ามาคุยกันได้นะจ๊ะ
ปล. เค้าไม่ได้บ้าหนังเกาหลีนะ แค่ดูเกือบทุกเรื่องเอง 5555
ป้ายกำกับ:
heartless city,
I hear your voice
25/7/56
Wedding presentation การ์ตูนเรื่องแรกของชีวิต
ขอขอบคุณน้องโฉม กับ ก๊อพ นะจ๊ะ ที่ให้เกียรติ (ไอ๊ย่ะ!!! ดูดีเลยทีเดียว) พี่ออมได้เป็นส่วนหนึ่งในวันสำคัญของทั้งสองคน ถึงแม้จะเป็นเวลาเพียงแค่ 5 นาที 27 วินาทีก็ตาม
ใครได้ดูแล้วคงอิจฉากันไปตามๆกัน ยิ่งใครเป็นคอซีรีย์เกาหลี ก็จะเห็นพล๊อตเรื่อง รักแรก ที่มาทำให้หัวใจคนดูตื้นตันกันนักต่อนัก น้อยคนนักจะเจอความรักอย่างนี้ และที่สำคัญไปกว่าการเริ่มต้น คือเรื่องราวของทั้งสองคนที่จะประคองรักกันไปตราบชั่วชีวิต ที่ทั้งสองต่างทำสัญญากันในวันเริ่มต้นชีวิตคู่ คือเมื่อแต่งงานเริ่มต้น
ไว้มาเล่ารายละเอียดขั้นตอนการสร้าง แบบมือใหม่ให้ฟังนะ
11/6/56
ทำไมถึงเลือก B-mobile ใช้อินเตอร์เน็ตในญี่ปุ่น
เอาหล่ะค่าาา พี่น้อง วันนี้จะมารีวิว เรื่อง ซิม ซิม
ว่าด้วยซิมอินเตอร์เน็ตที่ใช้เล่นเมื่อเราไปเยือนประเทศญี่ปุ่นกันนนนนน วู้วว
ออกตัวหัวทิ่มกันก่อนนะจ๊ะ อิฉันไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญการใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศญี่ปุ่นแต่อย่างใด เพิ่งไปมาครั้งแรกนี่แหละ ก็เลยอยากมาเล่าประสบการณ์ ทั้งการตัดสินใจก่อนเลือกใช้ และหลังจากที่ใช้มาแล้ว เท่าที่ search เจอโดยพี่กู(เกิ้ล) การใช้อินเตอร์เน็ตที่เห็นเค้าใช้ๆ กันมากๆ ก็มีหลายแบบคราวๆนะ
1. Pocket Wifi สำหรับเช่า --> (http://www.wifi-rental.jp ของเจ้านี่เค้ามีให้รับเครื่องในไทยด้วยนะจิ๊)
หน้าตาเจ้า Pocket wifi นิ
ที่ดิฮั่นใช้ก็นี่เลย ซิมยี่ห้อ B-mobile --> http://www.bmobile.ne.jp/english/
ไม่ต้องงง บอกว่า b-mobile ไหง๊รูปเป็น docomo ซิมเล่นเน็ตนี้เป็นของผู้ให้บริการมือถือเจ้าดังของพี่ยุ่นชื่อ Docomo จ้า
4. สุดท้าย WiFi ตามสถานที่ต่างๆ ที่ให้บริการฟรี อย่างเช่น สนามบิน, สถานี JR และตามโรงแรมที่พัก
ที่สนามบินก็จะใช้โดยลงชื่อใส่อีเมลล์ แล้วใช้ได้ 3 ชั่วโมง
____________________________________________________________________________
มาดูข้อมูลเบื้องต้นก่อนนะว่าเราจะต้องการใช้อินเตอร์เน็ตยังไง
1. ใช้ google map เป็นผู้นำทางตลอดทริป (ใช้เยอะมากกกกกกจริงๆ)
2. อัพรูป ขึ้นเฟส facebook (เราไม่ค่อยจะอัพ แอบกลัวเปลืองในตอนแรก)
3. แชตคุยกับเพื่อนๆ line, skype บ้าง
4. หาข้อมูลสถานที่เที่ยว ตอนออกนอกแผนการเดินทาง
5. เข้าไปตรวจอีเมลล์งาน (ดูเฉยๆ นะ แต่ไม่ทำ ก็มาเที่ยวนี่หน่า คริคริ)
6. ใช้เน็ตกับเพื่อน 2 คน
7. ระยะเวลาเดินทาง 6 วัน
____________________________________________________________________________
เอาหล่ะที่นี้เรามาดูกันว่าทำไมดิฮั่นจึงเลือกใช้ Internet SIM ของ B-Mobile กัน
1. สามารถสั่งซื้อผ่านเว็บให้ส่งไปที่พักของเราได้เลย ไม่เสียค่าจัดส่งเพิ่มถ้าส่งไปที่พักเลย
ถ้าให้เขาส่งไปที่สนามบินคิดเพิ่มอีก 210 yen
2. เรามีสมาร์ทโฟนอยู่แล้ว ไอ๊ย่ะ อวดรวยหลาว .. ไม่ใช่อย่างง้านนน คือโทรศัพท์เราใส่ข้อมูลเดินทางไว้
แล้ว พร้อมรบ เอ้ย!! พร้อมใช้ในการเดินทางเลย
3. ไม่ต้องดูแลรักษายิ่งชีพ เพราะถ้าเป็น pocket wifi เกิดพังหรือหายขึ้นมาแหละแม่คุณเอ๋ยยยย ได้นั่งร้องไห้เป็นภาษาญี่ปุ่นเป็นแน่ ถ้าเป็นแบบซิม ใช้หมดก็จบเกม อารมณ์ fun แล้วทิ้ง
4. ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจัดส่งกลับ ทั้งเสียค่ากล้อง ค่าส่ง และต้องมาหาที่จัดส่งของอีก วันที่กลับเป็นวันอาทิตย์ด้วย ไปรษณีย์ไม่เปิดนะฮ้า.. แต่เคยอ่านเจอ Lawson มีรับส่งไปรษณีย์ทุกวันด้วยอ่ะ แต่เที่ยวเพลินๆ ต้องมาหาร้านไปส่งของกลับอีก ไม่เอาดีกว่า..
5. ไปกับเพื่อนสองคน เราเปิดเครื่องเป็น Hot spot ได้โด๊ยยยย เราใช้ โอป้าแซมซุง โน๊ต 1 เพื่อนใช้ ไอ้โฟน แชร์สัญญาณเน็ตด้วยกันได้ สบาย...
6. ไม่ต้องลงทะเบียน ไม่ต้อง Activate ใส่ซิม ตั้งค่าแล้วใช้งานเลย มันเลิศอีกแหละ
7. และเหตุผลสุดท้ายคือเมื่อเราเปรียบเทียบราคาทั้งหมดแล้ว เอ๊าเทียบให้ดูเลยแล้วกัน (จริงๆแล้วมันมีหลายเจ้าที่ให้บริการนะเทียบให้ดูเฉพาะที่ไปดูมาหละกัน) เวลาที่เราใช้ 6 วัน
ราคาเป็น Yen นะ ค่าบริการ + ค่าจัดส่งไปที่พัก + ค่าซอง + ค่าจัดส่งกลับ + ค่าเสียหาย(ถ้าเกิดพัง)
*** Pocket Wifi = 3,900 + 840 + 350 (ถ้าอันใหญ่ต้องซื้อ 500) + ตัวเครื่อง 42000 เยน ซิม 5000 เยน สายยูเอสบี 1500 เยน สายชาร์ต 5000 เยน แบตเตอร์รี่ 6000 เยน กระเป๋าใส่อุปกรณ์ 500 เยน แถมถ้าส่งเครื่องที่ญี่ปุ่นไม่ทันคืนเครื่องที่ไทยเสียค่าปรับ อีก 5000 เยน อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!! มันเยอะตรงนี้
รวมเบ็ดเสร็จ เอาแบบไม่มีค่าเสียหายแหละกันโนะ มันเท่ากับ 5,090 - 5,240 เยน เอาไปคิดเรทเงินไทยเองนะ เพราะอัตราแลกเปลี่ยนมันไม่เท่ากัน
*** B-mobile visitor SIM = 3,980 + 0000 + 0000 + 0000 รวมเบ็ดเสร็จ 3,980 เยน
เงิบบบบบบ....
แค่นี้ก็ตัดสินใจได้โดยไม่ต้องลังเล คลิ๊กโลดดด http://www.bmobile.ne.jp/english/ ไอ๊ย่ะ ยังกะได้ค่าโปรโมท 555 ของเค้าดีจริง ไม่ได้โม้
____________________________________________________________________________
เรามาดูกันว่า เจ้า Visitor SIM ของ b-mobile นี้มันมีอะไรบ้าง
Visitor SIM เป็นสัญญาณ โทรศัพท์ 3G นะของเจ้านี้มีให้เลือก 2 แบบคือ
ทั้งสองแบบ ราคาเท่ากันฮ้าาา คือ 3,980 เยน ต่างกันตรงที่ความเร็ว ตัว 1GB เป็นแบบแบบไม่มีขีดจำกัดความเร็ว แต่ แบบ 14 วัน ความเร็วมากสุด 300 Kbps และมีขีดจำกัดด้านการใช้ ระบบ VoIP หรือระบบการสื่อสารด้วยเสียงผ่านอินเตอร์เน็ต ใช้จะใช้ Skype โปรดเลือก 1GB เพราะเขาโม้ว่า Perfect for skype
งงว่าทำไมราคาเท่ากันแหววว๊ ทำเอางงตอนจะเลือก ยิ่งฉลาดน้อยอยู่ด้วย ภาษาอังกฤษก็ระดับ ดี (ด๊อก)
ต่อมาดูว่ามือถือโครตเท่ห์ หรือ สมาร์ทโฟน (smart phone) ของเรานั้นใช้ SIM แบบไหน ดูดีดี ก่อนสั่งนะสั่งผิดเปลี่ยนไม่ได้นะ ไม่คืนตังก์ด้วย ฮั่น โหดนะวุ้ย เอ๊าดูซะ
และต่อจากนี้ ถ้าใครจะสั่งก็สามารถสั่งให้ส่งไปที่โรงแรม ได้เลยหรือจะให้ส่งไปสนามบินก็ได้นะ แต่นั้นแหละ ดูให้ดีก่อนนะเพราะมันมีข้อแม้นู้นนั้นนี่และเสียตังก์เพ่ิมนะฮ๊าฟฟฟฟ
____________________________________________________________________________
ข้อแม้
1. ซื้อได้เฉพาะในเว็บเท่านั้นนะ
2. มันสร้างมาเพื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะ โอ้ววว ชาวญี่ปุ่นจะมาซื้อไม่ได้นะจ๊ะ
3. ใช้โทรศัพท์ กับส่ง SMS มิใด้นะเจ๊ะ
4. ไม่คืนเงินไม่ว่ากรณีใดๆ นะฮ้า... โปรดรำลึกไว้ก่อนทำการสั่ง นะเจ๊ะ
5. ห้ามใส่ที่อยู่ผิด หรืออยากเปลี่ยนแปลงที่จัดส่ง เข้าไม่เปลี่ยนให้นะ อย่าหาว่าใจร้าย
6. ใช้งานได้ 14 วันเท่านั้นนะตัวเธอ
7. จัดส่งเฉพาะในประเทศเท่านั้น สามารถสั่งซื้อได้ตลอด 24 ชั่วโมง ได้ทุกวัน แต่เวลาจัดส่งจะส่งได้เฉพาะ เวลาราชการเท่านั้นนะ งดส่งเสาร์ อาทิตย์และวันหยุด ตรวจตอบวันหยุดของญี่ปุ่นก่อนนะจ๊ะ
8. โทรศัพท์ท่านต้องรองรับ 3G รองรับระบบ W-CDMA Band 1 (2100MHz) or Band 6 (800MHz) เท่านั้นนะ
____________________________________________________________________________
มาดูตอนใช้งานกันบ้าง
เราสั่งแบบ 1GB ส่งโรงแรม พอไปถึงที่พัก เจ้าซิมก็มานอนรออยู่ที่เคาเตอร์แล้ว สวัสดีจ้าสาวน้อย
ไปดูข้างในกันข้างในประกอบด้วย
1. คู่มือการใช้งาน
2. ซิม
3. ใบเสร็จรับเงิน
แกะซิมแล้วเสียบเลยลูกพี่ ซิมเก่าเก็บไว้ดีดีนะคุณ ดิฮั่น เก็บดีเกิ๊น และเที่ยวจนเพลินของเยอะมาก กลับไปใช้โทรศัพท์ไม่ได้ไปสองวัน หาซิมไม่เจอ ไว้อาลัยแด่ความเขลาของชะนีนางนี้ สองนาที
เปิดเครื่องแล้วก็ไปที่ตั้งค่าเลยจ้า การตั้งค่าอยู่ในคู่มืออยู่แล้วจ้า.
อันนี้ก็แปะไว้ให้หนักหน้าเว็บสักหน่อย
Name : b-mobile
APN : bmobile.ne.jp
Username : bmobile@frPassword : bmobile
Auth type : PAP or CHAP (if available)
ตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว ใช้งานได้เลย โอ้ววววววววววว มันยอดมากค่าจอร์จจจจ อะมาญี่ปุ่นทั้งทีขอครางว่า สุโคคคคคค่ย !!
ระดับความพึงพอใจ
1. ความแร๊งงงง ของสัญญาณ 3G พี่ยุ่น ลืม 3G ประเทศไทยไปได้เลย หายใจเข้าไม่ทันถึงครึ่งปอดโหลดเสร็จแหละ โหยยย สุโคคคค่ย ครั้งที่สอง 55555 มันเป็นสัญญาณ 3G ของแท้ 555 เฮ้ยว่าของไทยเป็นของปลอมเหรอเธอ สัญญาณจะหายไปบ้างขณะออกนอกเมือง ก็มีช่วงที่เดินทางจากเกียวโต ไปโตเกียว สัญญาณขาดเป็นระยะ แต่ถือว่าน้อยมากเพราะรถไฟวิ่งเร็วมากเป๊ปๆก็ถึงอีกเมืองแหละ สถานีรถไฟใต้ดินอับสัญญาณเป็นบางที่
2. ใช้งานง่ายมาก ไม่ต้อง Activate แล้ว เป็นอารมณ์ระบบ Plug & Play
3. ชอบตรงที่เปิดทิ้งเปิดขว้างก็ไม่หมด คิดตามจริงที่ใช้ ไป 6 วัน เหลืออยู่เกือบครึ่ง แม่งโครตเสียดาย อุตส่าห์กั๊กไว้ใช้ตอนสองสามวันแรก กลัวหมด 55555
พอใจระดับเลิศ เอาใจดิฮั่นไปเลยฮ้าาาาาา... ม๊วฟ ม๊วฟ
เนื้อหาทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เป็นรายละเอียดในช่วงกลางปี 2556 นะ กรุณาไปอัพเดตรายละเอียดใหม่ๆ ได้ที่เว็บที่โพสไว้เลยจะดีกว่าเพราะเขาก็มีการปรับปรุงการให้บริการอยู่เรื่อยๆ
******* ห้ามลืมเด็ดขาดดดดดด คือ เอาเครื่องชาร์ตเบ็ทเตอรี่สำรองไปด้วยนะมันแดรกกกไฟเป็นอย่างยิ่ง และยิ่งต้อง เปิดเป็น Hotspot อีกโอ้วว **********
เอามายั่วสำหรับคนที่กำลังวางแผนไปเที่ยวนะ
ป้ายกำกับ:
ใช้อินเตอร์เน็ต ญี่ปุ่น,
ใช้ sim เน็ตในญี่ปุ่น,
B-mobile
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)