ก่อนอื่นใดขอขอบพระคุณ สายการบิน Airasia เป็นอย่างสูง ที่จัดโปรฯ ให้การตัดสินใจเสียตังก์แบบแทบจะไม่ต้องคิดให้ดีก่อน จนทำให้เราได้ไปเยือนญี่ปุ่นในครั้งนี้ เราเลยได้ตั๋ว ไป-กลับญี่ปุ่น (โตเกียว) 8,458 (ราคายังไม่ได้จองโหลดกระเป๋านะ) จองไว้ข้ามปี โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงการขอวีซ่าว่าจะผ่านหรือไม่ 555555 เครียดตัวดำไปเลยตอนหาข้อมูลขอวีซ่า (จริงๆ ก็ดำอยู่แล้วนะ)
ด้วยความอยากไปญี่ปุ่นและก็เกริ่นกับเพื่อนชะนีนางหนึ่งไว้ด้วยกันว่าอยากไปญี่ปุ่นสักครั้งก่อนตาย ฮั่น ดูโหด.. และด้วยการทีเรานำร่อง Back pack ด้วย สิงค์โปร และเวียดนามมาแล้ว ความกล้าๆ กลัวๆ ก็หายไปหมดสิ้น เจอทริปเวียดนามสุดหิน พบวิบากกรรมมากมาย อย่าให้เล่า เพราะมันจะเคล้าด้วยน้ำตา
ลำดับการจัุดทริปของเรา (เน้นนะของเรา)
1. จองตั๋วกำหนดวันไป (ดันได้ไปช่วง Golden week วันที่ 3-7 ของญี่ปุ่นพอดี ) ได้ตั๋ววันที่ 30 เม.ย-7พ.ค. ปี 56 ซึ่ง
ทั้งสองนางไม่รู้ว่ามันเป็นวันหยุดของพี่ยุ่น อ๊ากกกก ตอนแรกแอบเครียดว่าคนจะเยอะแต่แล้วไม่ได้เป็นเยี่ยงนั้นกลับเที่ยวสนุกกว่าเคยเพราะ ทุกอย่าง ลด ลด ลดดดดดดด สบายแฮ...ช๊อปปิ้งกันแบบยิ้มกรุ่มกริ่มกันตลอดทริป
2. เตรียมขอวีซ่า เป็นช่วงที่ลุ้นที่สุดอ่ะ เพราะอ่านรีวิวและคำขู่ของพ้องเพื่อนบอกว่า ขอวีซ่าญี่ปุ่นยากม๊าก ถึงม๊ากที่สุด ตอนวีซ่าส่งมาถึงบ้านก่อนฉีกซอง ลุ้นมาก เหมือนยืนฉีกซองบนขอบหน้าผาแกรนด์แคนยอน มือเท้าสั่น พอพบหน้าวีซ่าในพาสปอร์ต ยิ้มแก้มแตกไปสองวัน ขนาดนั้นเลยทีเดียว
ขอยินดีด้วยน่ะฮ้า.. ตั้งแต่กลางปี 56 ไม่ต้องขอวีซ่าไปแล้วนะดีใจแทนคนที่ได้ไปเที่ยวช่วงนี้ น้ำตาตกในเลย
3. วางแผนว่าอยากไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ด้วยเงินเก็บอันน้อยนิด และความสามารถในการหาเงินอยู่ในขั้นต่ำ ก็เลยคิดไปเองว่าไปครั้งนี้แล้วไม่รู้จะได้ไปอีกเมื่อไร เลยวางแผนว่าให้ไปทุกทีที่อยากไป ทำให้เราพลาดเรื่องการเดินทางในญี่ปุ่น เสียเวลาและเสียตังก์ค่ารถไฟไปแพงอยู่ แต่นับว่าเป็นประสบการณ์ จึงไม่ได้แคร์มากนัก
ขั้นตอนคือ
1. อ่านรีวิวที่มีทั้งปวงบนเน็ต ขอบกราบขอบพระคุณทุกท่านที่สละเวลาทำการรีวิวไว้เป็นอย่างสูง
2. พล๊อตตำแหน่งที่อยากไป ไว้บน google maps
3. ประมวลการเดินทางและ ประมาณค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ดูทั้งรถไฟ รถบัส เครื่องบิน อาศัยพี่กู (google maps อีกแหละเพราะเค้ามีคำนวนค่ารถให้เลยด้วย พี่กูชนะเลิศ)
อีกเว็บที่ใช้เช็ครถไฟในญี่ปุ่น
http://www.hyperdia.com/en/ ละเอียดยิบ มี app ให้ดาวน์โหลดกันด้วยนะ ติดมือถือไว้เป็นดี เอาไว้เช็คเที่ยวรถได้ ทุกอย่างตรงเพะ รถไฟบอกว่ามากี่โมง กี่นาที เทียบชานชลากันเวลานั้นเลย ไม่มีคำว่า late แน่นอน นายแน่มาก
4. จัดการจองตั๋ว JR pass (หรือใครใช้ pass อื่นๆ ก็ไปซื้อได้ที่สถานีนั้นๆได้ )เพราะเราคำนวนแล้วใช้ไอ้นี่คุ้มสุดเพราะเราเดินทางข้ามจังหวัดด้วย จาก โตเกียว ไป เกียวโต ไปโอซาก้า แล้วกลับมาที่ โตเกียวอีก ซึ่งคุณน้องแนะนำว่าอย่าทำตามนะฮ้า เพราะเหนื่อยโฮก ไปญี่ปุ่นแค่ 6 วันเที่ยวได้ไม่เยอะหรอก ล้อจัดหนัก เหนื่อยโฮก วันหนึึ่งเราเที่ยวได้แค่ 2-3 ที่ถือว่าเยอะแล้วเพราะต้องใช้เวลาในการเดินทาง หาสถานี คือใช้เวลาในการเดิน เดิน และก็เดิน ในสถานี JR เยอะอยู่
ตัว JR pass จองผ่านเอเย่นในไทย เราซื้อของ
http://www.japanonsales.com/ ณ ตอนนั้นเค้าให้ราคาดีสุด อยากให้ลอง รีเสิจ ก่อนนะเพราะราคาอาจจะเปลี่ยนก็ได้ ตอนที่ไปถือว่าค่าเงินงามมาก 0.297 หน้าตาตอนแลกเงินมีความสุขสุดๆ
มันถูกง่ะ
5. จองโรงแรม โรงแรมก็ควรจะให้ใกล้กับที่เที่ยวของเรานะ ถ้าไม่มีหรือแพงก็หาที่มันใกล้กับสถานีรถไฟเอา ใช้พี่กูอีกให้การดูและคำนวนระยะทางจากสถานีรถไฟไปยังโรงแรม และแอบไปดูแบบ street view ดูความเปลี่ยวของเส้นทาง เป็นคนสวยไงก็ต้องระวังตัวสักหน่อย 5555 ที่ไปมาก็เน้นแบบ hostel ถูกไว้ก่อนพ่อสอนไว้
6. แลกเงิน ไว้ให้พร้อม เราก็ฝากให้พี่สาวคนสวยแลกให้ที่ super rich เรทดีสุดในประเทศแล้ว
7. ซื้อซิมอินเตอร์เน็ต ตัวช่วยการเดินทางอันแสนวิเศษ เราได้ลองใช้่ 3G พี่ยุ่นถือว่าเป็นบุญมาก
(แวะไปอ่าน รีวิวของอินเตอร์เน็ตในญี่ปุ่น)
8.เตรียมตัวก่อนวันเดินทาง สักอาทิตย์ เช็คอุณหภูมิ สภาพฟ้าฝน แล้วจัดเสื้อผ้า รองเท้า ที่นุ้นไม่เห็นใส่รองเท้าแตะเดินกันนะ แอบฮาตรงที่เราตั้งใจเลยว่ากะไปซื้อเอาที่นู้นจะได้ไม่ต้องหิ้วของเยอะ ไงหล่ะเดินตีนเขียวไปหนึ่งวันเต็ม หนาวมากอ่ะ 8-16 องศา และเรื่องยังมีอีก ลืมเสื้อหนาวจ้าาาาาาาา กะว่าจะไว้นอกกระเป๋าไม่ต้องโหลดเพราะไปถึงจะได้ใส่เลย ดันลืมหยิบ ควายเรียกพี่ เตรียมพร้อมฝุดๆ จริงกรู แต่ไม่เป็นไรเราก็ใส่เสื้อผ้าที่เราไปหลายชั้น ตัวบวมเป็นอึ้ง กันเลย โอ๊บ อ๊บ
Check list
- ตั๋วเครื่องบิน เช็คอินไป-กลับ พร้อม
- พาสปอร์ต
- JR pass คือจองผ่านเอเย่นก็จะถามว่าไปจังหวัดไหนบ้างเค้าจะเตรียมเอกสารการท่องเที่ยว และแผนที่มาให้ด้วยอ่ะ ดีจุงเบย
- ใบจอง โรงแรม
- รายละเอียดที่วางแผนการเดินทาง พอเอาเข้าจริงใช้ มือถือซะส่วนใหญ่ แล้วก็ไปพึงแผนที่ที่นู้นแผนทีดีมาก เราสามารถเดินทางได้แบบสมูทมาก แม้จะมีหลงทิศบ้างนิดหน่อย
- เสื้อกันหนาว ถุงเท้า ถุงมือ ก็ดูสภาพอากาศช่วงที่เดินทางก่อน
- รองเท้าผ้าใบที่ใส่สบาย ไม่ต้องพกแตะก็ได้นะ
- อันนี้อยากให้ติดไปด้วย ผ้ายืดสวมหัวเข่า เฮ้ยเอาไปข้างเดียวเพราะเคยมีปัญหาที่เข่าข้างนั้นกลัวเดินเยอะแล้วเจ็บ ปรากฏว่ามันชนะเลิศ ถ้าได้ใส่ทั้งสองข้าง จะช่วยได้เยอะมากกกกก
|
ผ้ายืดพยุงหัวเข่า
Knee support |
แบบนี้นะ ที่เอาไป ดีจริง ต้องบอกต่อ เหมือนจะขายของโนะ
ใครมีปัญหาเรื่องหลังก็เอา พวก support หลังไปด้วยเพราะเราจะต้องแบกของ หนักอยู่
9. หมอนรองคอ ไอ้ทีเป็นรูปตัวยู หรือเกือกม้าหน่ะ ใครนอนหลับยาก พกไปด้วยนั่งเครื่องหลับสบาย น้ำลาย ยายไหลย้อย ไม่ยู้ตัวกันเยย
10. ถุงนอนนนนนน เพราะที่พักของเราคืนแรกในญี่ปุ่นคือ สนามบิืนฮาเนดะ และถุงนอนก็ช่วยให้หลับสบายบนเครื่องด้วย ดีจัง
11. ยูกยา ต่างๆ ยาประจำตัว พารา พลาสเตอร์ ยาดม ยาลม ยาหม่อง ก็ว่ากันไปตามฤทัยท่าน
12. สิ่งสุดท้ายห้ามลืมเด็ดขาด คือ ตังก์ที่แลกไว้ 55555 ใครมีบัตรเครดิต เดบิตที่เป็นวีซ่า ก็พกติดตัวกันเหนียวไว้ก่อนเผื่อมีเหตุการณ์ เหนือธรรมชาติ เช่น โดนผีเครื่องสำอางค์ ผีเสื้อผ้า หรือ ผีรองเท้าเข้าสิง
ลืมอะไรอีกไหม๊ คงไม่แล้วมั้ง ... เอาไว้มาเล่าว่าไปเที่ยวไหนมาบ้างนะ